ชะตากรรมของผู้หญิงซูดานในภาวะสงคราม
ชะตากรรมของผู้หญิงซูดานในภาวะสงคราม
—————
◾️ สงครามกลางเมืองในซูดาน
◾️ ปล้นบ้าน พรากพ่อ ฉุดลูกสาว
◾️ ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองอาเดร
◾️ ถูกทหารปล้นและข่มขืน
◾️ จับนักเรียนหญิง 9 คนไปข่มขืน
◾️ ถูกตำรวจข่มขืนซ้ำจนท้อง
◾️ ค่ายผู้ลี้ภัยที่เต็มไปด้วยแม่เลี้ยงเดี่ยว
◾️ เด็ก 3 ขวบก็ไม่เว้น
—————
🔴 สงครามกลางเมืองในซูดาน
:
1- ประเทศซูดานเกิดสงครามกลางเมืองตั้งแต่เมษายน 2023 เพราะเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพซูดาน กับกองกำลังกึ่งทหารที่เรียกว่า RSF เพื่อแย่งชิงอำนาจกัน
2- ความขัดแย้งนี้ส่งผลให้เกิดวิกฤตมนุษยธรรมอย่างรุนแรง พลเรือนถูกฆ่าตายนับหมื่น มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ปล้นและเผาหมู่บ้าน ผู้หญิงถูกข่มขืนรายวัน มีผู้พลัดถิ่นกว่า 12 ล้านคน
3- และนี่คือเรื่องเล่าจากผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์นี้ (ทุกชื่อเป็นนามสมมุติ)
—————
🔴 ปล้นบ้าน พรากพ่อ ฉุดลูกสาว
:
4- “นาเดีย” (Nadia) อายุ 22 ปี อาศัยอยู่กับครอบครัวที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองเอล-เจนนา ประเทศซูดาน
5- เมื่อ RSF บุกโจมตีหมู่บ้าน พวกเขาจับตัวนาเดียไปขังไว้ที่บ้านหลังหนึ่งแล้วผลัดกันข่มขืน “คนหนึ่งจะอยู่ราว 2-3 ชม. จากนั้นอีกคนก็จะเข้ามาข่มขืนฉันต่อ ถ้าฉันขัดขืนจะโดนทำร้าย“
6- หลังถูกข่มขืนต่อเนื่องนาน 2 วัน พวกเขาก็ปล่อยตัวเธอ แต่เมื่อกลับไปที่บ้าน นาเดียพบว่าเธอไม่เหลืออะไรแล้ว บ้านถูกปล้นทำลาย ทุกคนหายไปหมด
7- นาเดียได้ข่าวว่าคนจำนวนมากอพยพข้ามพรมแดนไปอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองอาเดร ประเทศชาด เธอจึงเดินทางไปที่นั่นเพื่อตามหาครอบครัว จนได้พบแม่กับน้องสาว แต่พ่อกับพี่ชายถูก RSF จับตัวไป ไม่รู้เป็นหรือตาย
—————
🔴 ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองอาเดร
:
8- เมืองอาเดร ตั้งอยู่ตรงชายแดนชาด-ซูดาน เดิมทีเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากรไม่กี่หมื่นคน เป็นที่ราบกึ่งทะเลทรายและแห้งแล้ง
9- เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นในซูดาน ชาวซูดานกว่า 2 แสนคนพากันอพยพไปอยู่ที่เมืองอาเดร จนเกิดเป็นค่ายผู้ลี้ภัยขึ้นมา
10- ครอบครัวของนาเดียก็เช่นกัน พวกเธอช่วยกันสร้างที่พักขึ้นจากฟางและขยะที่เก็บได้ เช่น เศษผ้า เศษพลาสติก
11- นาเดียกับน้องสาวออกไปหางานทำในเมือง จนได้ขายชาอยู่ที่วงเวียนแห่งหนึ่ง พวกเธอถูกผู้ชายลวนลามทุกวัน แต่ก็ต้องอดทนเพื่อปากท้องของครอบครัว
—————
🔴 ถูกทหารปล้นและข่มขืน
:
12- คืนหนึ่งนาเดียกับน้องสาวเลิกงานดึกและนั่งรถตุ๊กตุ๊กกลับค่าย ระหว่างทางถูกทหารลาดตระเวนของชาดสกัดไว้
13- พวกเขาบังคับเอามือถือกับเงินของนาเดียไปจนหมด แล้วลากตัวเธอกับน้องสาวขึ้นไปข่มขืนบนรถคนละคัน
14- นาเดียต้องไปโรงพยาบาลเพราะได้รับบาดเจ็บ เธอไม่กล้าบอกหมอว่าถูกข่มขืน แต่คนไข้หญิงอีกคนมองเธอแล้วพูดว่า “ถูกข่มขืนมาเหมือนกันใช่มั้ย มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วล่ะ”
—————
🔴 จับนักเรียนหญิง 9 คนไปข่มขืน
:
15- “อาลียา” (Aliya) เด็กสาววัย 18 จากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองเอล-เจนนา เธอเคยมีชีวิตที่สงบสุขกับพ่อแม่พี่น้องและเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน
16- ในปี 2023 กองกำลัง RSF บุกเผาหมู่บ้านของเธอ มีคนตายหลายคน รวมทั้งพี่ชาย 2 คนของอาลียาด้วย
17- อาลียากับคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านที่รอดชีวิตจึงพากันเดินเท้าอพยพไปยังเมืองอาเดร แต่ระหว่างทางอาลียากับเพื่อนนักเรียนหญิงอีก 8 คนถูก RSF จับตัวไป
18- พวกเขาขังเด็กสาวทั้ง 9 คนไว้ในบ้านหลังต่าง ๆ แล้ววนข่มขืนเป็นเวลา 2 วัน จนเพื่อนของอาลียา 2 คนเสียชีวิต ส่วนอาลียารอดตายมาได้
—————
🔴 ถูกตำรวจข่มขืนซ้ำจนท้อง
:
19- อาลียาข้ามแดนไปถึงเมืองอาเดรได้สำเร็จ เด็กสาวคิดว่าเธอรอดภัยข่มขืนมาได้แล้ว แต่ในปีถัดมาเธอได้รู้จักกับตำรวจชาวชาดคนหนึ่ง เขาทำทีเป็นมีน้ำใจให้ความช่วยเหลือ แต่แล้ววันหนึ่งก็ฉวยโอกาสข่มขืนเธอ
20- อาลียาตั้งท้องและให้กำเนิดลูกสาวชื่อ “เอวา” (Ava) ปัจจุบันอายุ 9 เดือน ส่วนตำรวจที่ข่มขืนเธอปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งหมด และไม่พูดคุยกับเธออีกเลย
21- เพื่อนของอาลียาอีกคนที่รอดจากสงครามในซูดานมาได้ ก็ถูกตำรวจชาดข่มขืนที่ค่ายผู้ลี้ภัยจนคลอดลูกเช่นกัน
—————
🔴 ค่ายผู้ลี้ภัยที่เต็มไปด้วยแม่เลี้ยงเดี่ยว
:
22- เมื่อเวลาผ่านไปค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะสามีตายหรือหายสาบสูญบ้าง ถูกข่มขืนจนท้องบ้าง บางคนถูกข่มขืนมาจากซูดาน บางคนถูกข่มขืนที่ชาด โดยทหาร ตำรวจ ผู้ชายท้องถิ่น หรือแม้แต่ผู้ลี้ภัยด้วยกันเอง
23- แค่เดินออกจากค่ายพวกเธอก็เสี่ยงถูกข่มขืนแล้ว แต่เพราะในค่ายขาดแคลนทุกอย่างจึงต้องยอมเสี่ยง บางคนถูกข่มขืนตอนออกไปตักน้ำ หาฟืน บางคนถูกชาวบ้านจ้างไปซักผ้า แต่กลับถูกข่มขืนแทนที่จะได้รับค่าจ้าง
24- “ฮานัน” (Hanan) อายุ 33 ปี เป็นคุณแม่ลูกหก สามีของเธอหายตัวไปในซูดาน ไม่รู้อยู่หรือตาย เธอจึงต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ให้กับลูก ๆ
25- เช้าวันหนึ่งฮานันออกไปหาฟืน แล้วถูกผู้ชายคนหนึ่งข่มขืน ตอนนี้ฮานันกังวลมากว่าตัวเองจะตั้งท้อง ถ้ามีลูกเพิ่มขึ้นมาอีกคน เธอไม่รู้ว่าจะเลี้ยงดูได้อย่างไร
—————
🔴 เด็ก 3 ขวบก็ไม่เว้น
:
26- “ลาแชม” (Lacham) อายุ 35 ปี เคยมีชีวิตที่มีความสุขกับสามีและลูก ๆ 5 คน แต่ในปี 2023 กองกำลัง RSF ขี่ม้าเข้ามาในหมู่บ้านและพาตัวสามีเธอไป เขาไม่ได้กลับมาอีกเลยนับแต่นั้น
27- ลาแชมพาลูก ๆ ทั้งห้าเดินเท้า 7 ชม. ไปยังค่ายผู้ลี้ภัยเมืองอาเดร ที่นี่เธอโดดเดี่ยวมาก ไม่มีญาติและไม่มีคนจากเผ่าเดียวกันเลย
28- โชคดีเธอได้เพื่อนบ้านครอบครัวหนึ่งคอยช่วยเหลือกัน แบ่งปันอาหารให้กัน ทำให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไปนัก
29- วันหนึ่งในเดือนมีนาคม 2025 ขณะที่ลาแชมกำลังเตรียมอาหารในวันสิ้นสุดรอมฎอนเพื่อมาทานด้วยกันกับเพื่อนบ้าน เธอได้ยินเสียง “เฮลวา” ลูกสาววัย 3 ขวบ ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
30- พอเธอออกมาดูก็พบว่าสามีของเพื่อนบ้านคนนั้นกำลังล่วงละเมิดเฮลวาอยู่ ลาแชมกรีดร้องและพุ่งเข้าไปแย่งตัวลูกออกมา แล้วรีบพาเฮลวาที่เลือดไหลไม่หยุดไปโรงพยาบาล
31- เฮลวารอดชีวิตมาได้แต่เธอหวาดกลัวทุกอย่างและเกาะติดแม่แจ แค่ได้ยินชื่อของเขาก็ผวาและร้องไห้ วันที่นักข่าวอัลจาซีราไปสัมภาษณ์ลาแชม แค่เด็กน้อยได้ยินชื่อผู้ชายคนนั้นก็ตัวสั่นแล้ว
32- ลาแชมเล่าว่าเธอไปแจ้งความ ผู้นำชุมชนพาตัวผู้ชายคนนั้นไปสอบสวน แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเขาก็ถูกปล่อยตัว และเดินอิสระไปทั่วค่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
33- อัลจาซีราสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ของชาด พวกเขายืนยันว่าที่นี่ไม่มีปัญหาความรุนแรงทางเพศ เพราะจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลตลอด และปฏิเสธว่าไม่มีทหาร-ตำรวจข่มขืนผู้ลี้ภัย
#FreeSudan 🇸🇩
—————
🔳 ภาพ/เนื้อหา สรุปและเรียบเรียงจาก: Caitlin Kelly, Al Jazeera, Sudanese Echo, Jerome Tubiana