ทรัมป์ขึ้นภาษีไทยเป็น 36%มากกว่ามาเลเซีย น้อยกว่ากัมพูชา

นักเศรษฐศาสตร์ เปิด 3 ทางโต้ 'สู้-หมอบ-ทน'

.

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีใหม่ในวันที่ 2 เม.ย. ตามเวลาอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาระบุว่า จะเป็นวันปลดแอกสหรัฐฯ โดยผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า นี่จะเป็นการพลิกโฉมประเทศ เพื่อให้สหรัฐฯ กลายเป็นขุมกำลังด้านอุตสาหกรรม

.

ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า มาตรการภาษีรอบนี้ เบื้องต้นจะมีอัตราภาษี 10% เป็นพื้นฐาน บังคับใช้กับสินค้านำเข้าไปยังสหรัฐฯ และจะปรับอัตราภาษีเพิ่มสูงขึ้น ขึ้นอยู่กับอัตราภาษีที่ประเทศนั้นๆ เก็บกับอเมริกา

.

ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า นี่เป็นมาตรการที่เข้าใจง่ายมากๆ และไม่มีอะไรเข้าใจง่ายไปกว่านี้แล้ว คือการต่างตอบแทน หมายถึงประเทศอื่นทำกับอเมริกาเท่าไหร่ เราก็จะหั่นครึ่งจากที่เขาเก็บ แล้วทำกลับไปเหมือนกัน

.

ในตารางของทำเนียบขาว รายชื่อประเทศที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษี ปรากฎชื่อประเทศไทยว่า จะถูกเก็บภาษีต่างตอบแทน 36% เนื่องจากสหรัฐฯ มองว่า อัตราภาษีที่ไทยเก็บสหรัฐฯ โดยคำนวณจากการบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยน และกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี สูงถึง 72%

.

กล่าวเฉพาะในเอเชีย มีหลายประเทศที่เผชิญอัตราภาษีสหรัฐฯ ทั้งในอัตราที่มากและน้อยกว่าไทย ยกตัวอย่างเช่น

.

กัมพูชา 49%

ลาว 48%

เมียนมา 44%

ศรีลังกา 44%

เวียดนาม 45%

ไทย 36%

จีน 34%

อินโดนีเซีย 32%

ไต้หวัน 32%

ปากีสถาน 29%

อินเดีย 26%

ญี่ปุ่น 24%

มาเลเซีย 24%

บรูไน 24%

ฟิลิปปินส์ 17%

สิงคโปร์ 10%

.

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า งานแรกของรัฐบาลคือต้องไปหาก่อนเลยว่า 72% มาจากไหน

.

"Trump เล่นคิดว่าไทยเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ (รวม nontariff barriers) 72%! ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยภาษีนำเข้าแค่ประมาณ 10% แปลว่าเขาคิด value ของ nontariff barrier เยอะมาก หรือไม่ก็ focus ตรงสินค้าที่เราคิดภาษีเขาเยอะๆ เช่นสินค้าเกษตรทั้งหลาย หรือไม่ก็เขียนผิด" ดร.พิพัฒน์ ระบุในโพสต์

.

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ยังระบุสามทางเลือก ได้แก่ 'สู้' แบบ แคนาดา ยุโรป หรือจีน 'หมอบ' คือเจรจาหาทางลงที่สหรัฐฯ พอใจ เช่นปรับลดภาษี ยอมเปิดตลาด ไปจนถึงนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ และ 'ทน' ถ้าเราหาทางออกไม่ได้

.

ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์เสนอว่า หากไม่ต้องการเผชิญอัตราภาษีที่สูงเช่นนี้ ประเทศต่างๆ ต้องทำลายอัตราภาษีของตัวเอง ปรับลดกำแพงต่อสินค้าสหรัฐฯ ไม่บิดเบือนค่าเงิน พร้อมย้ำว่า มาตรการทางภาษีครั้งนี้เป็นการปกกป้องประเทศ จากใครก็ตามที่อาจจะทำลายเศรษฐกิจอเมริกา

.

เขายังย้ำด้วยว่า หากธุรกิจไหนต้องการภาษีเป็นศูนย์ ก็แค่ย้ายมาผลิตในอเมริกา เพราะที่อเมริกาไม่มีเรื่องภาษีนำเข้า

.