วันเสาร์ ที่ 19 เม.ย. 2568
ทรัมป์ขึ้นภาษีไทยเป็น 36%มากกว่ามาเลเซีย น้อยกว่ากัมพูชา
นักเศรษฐศาสตร์ เปิด 3 ทางโต้ 'สู้-หมอบ-ทน'
.
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีใหม่ในวันที่ 2 เม.ย. ตามเวลาอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาระบุว่า จะเป็นวันปลดแอกสหรัฐฯ โดยผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า นี่จะเป็นการพลิกโฉมประเทศ เพื่อให้สหรัฐฯ กลายเป็นขุมกำลังด้านอุตสาหกรรม
.
ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า มาตรการภาษีรอบนี้ เบื้องต้นจะมีอัตราภาษี 10% เป็นพื้นฐาน บังคับใช้กับสินค้านำเข้าไปยังสหรัฐฯ และจะปรับอัตราภาษีเพิ่มสูงขึ้น ขึ้นอยู่กับอัตราภาษีที่ประเทศนั้นๆ เก็บกับอเมริกา
.
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า นี่เป็นมาตรการที่เข้าใจง่ายมากๆ และไม่มีอะไรเข้าใจง่ายไปกว่านี้แล้ว คือการต่างตอบแทน หมายถึงประเทศอื่นทำกับอเมริกาเท่าไหร่ เราก็จะหั่นครึ่งจากที่เขาเก็บ แล้วทำกลับไปเหมือนกัน
.
ในตารางของทำเนียบขาว รายชื่อประเทศที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษี ปรากฎชื่อประเทศไทยว่า จะถูกเก็บภาษีต่างตอบแทน 36% เนื่องจากสหรัฐฯ มองว่า อัตราภาษีที่ไทยเก็บสหรัฐฯ โดยคำนวณจากการบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยน และกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี สูงถึง 72%
.
กล่าวเฉพาะในเอเชีย มีหลายประเทศที่เผชิญอัตราภาษีสหรัฐฯ ทั้งในอัตราที่มากและน้อยกว่าไทย ยกตัวอย่างเช่น
.
กัมพูชา 49%
ลาว 48%
เมียนมา 44%
ศรีลังกา 44%
เวียดนาม 45%
ไทย 36%
จีน 34%
อินโดนีเซีย 32%
ไต้หวัน 32%
ปากีสถาน 29%
อินเดีย 26%
ญี่ปุ่น 24%
มาเลเซีย 24%
บรูไน 24%
ฟิลิปปินส์ 17%
สิงคโปร์ 10%
.
ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า งานแรกของรัฐบาลคือต้องไปหาก่อนเลยว่า 72% มาจากไหน
.
"Trump เล่นคิดว่าไทยเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ (รวม nontariff barriers) 72%! ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยภาษีนำเข้าแค่ประมาณ 10% แปลว่าเขาคิด value ของ nontariff barrier เยอะมาก หรือไม่ก็ focus ตรงสินค้าที่เราคิดภาษีเขาเยอะๆ เช่นสินค้าเกษตรทั้งหลาย หรือไม่ก็เขียนผิด" ดร.พิพัฒน์ ระบุในโพสต์
.
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ยังระบุสามทางเลือก ได้แก่ 'สู้' แบบ แคนาดา ยุโรป หรือจีน 'หมอบ' คือเจรจาหาทางลงที่สหรัฐฯ พอใจ เช่นปรับลดภาษี ยอมเปิดตลาด ไปจนถึงนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ และ 'ทน' ถ้าเราหาทางออกไม่ได้
.
ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์เสนอว่า หากไม่ต้องการเผชิญอัตราภาษีที่สูงเช่นนี้ ประเทศต่างๆ ต้องทำลายอัตราภาษีของตัวเอง ปรับลดกำแพงต่อสินค้าสหรัฐฯ ไม่บิดเบือนค่าเงิน พร้อมย้ำว่า มาตรการทางภาษีครั้งนี้เป็นการปกกป้องประเทศ จากใครก็ตามที่อาจจะทำลายเศรษฐกิจอเมริกา
.
เขายังย้ำด้วยว่า หากธุรกิจไหนต้องการภาษีเป็นศูนย์ ก็แค่ย้ายมาผลิตในอเมริกา เพราะที่อเมริกาไม่มีเรื่องภาษีนำเข้า
.