สรุปประเด็นดราม่า "แม่ผัว-อดีตสามีที่เป็นหมอ รวมหัววางแผนขโมยลูก" ผ่านรายการโหนกระแส 😲👇

.

🔵 ผู้เสียหาย คือ คุณเอ นามสมมุติ ส่วนผู้ชายทำอาชีพหมอ (อายุ 34) โดยเรื่องเริ่มจาก

◼️ ทางคุณเอได้รู้จักกับผู้ชาย ผ่านทางแอป ที่แมทช์มาเจอกัน จากนั้นผู้ชายก็ได้ขอไลน์และนัดมาเจอกัน

◼️ ตอนแรกเจอกันครั้งแรก ก็รู้สึกแปลกในความคิดเรา ที่เขาขอให้มีการหารสอง (แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก) เพราะเราถามเขาว่าให้ช่วยไหม เขาบอกว่า ก็ดีนะ แล้วเขาก็ส่งเลขที่บัญชีมาให้ และมีการมาหารค่า BTS ค่ารถด้วย

◼️ จากนั้นช่วงปลายปี 66 ต้นปี 67 เราก็ไม่อยากสานสัมพันธ์ต่อ ก็เลยมีการบอกเลิกเขาไป

◼️ แต่ที่นี่ ทางเอลืมลิปสติกแล้วมันเป็นลิปสติกแบรนด์เนม ก็เลยขอให้เขาส่งไปรษณีย์กลับมาให้ แต่เขาบอกว่านัดเจอกันดีกว่า ก็เลยได้ไปเจอกันอีกครั้ง ก็เลยได้ย้อนกลับมาคุยกันใหม่อีกครั้ง


🔵 ในช่วงความสัมพันธ์กับฝ่ายชาย

◼️ เราไม่เคยไปบ้านเขาเลย แต่เขาเคยมาบ้านเรา เราเป็นคนต่างจังหวัด เขาเป็นคนกรุงเทพฯ ทุกครั้งที่เขามาเที่ยวบ้านเรา คนในครอบครัวเราดูแลเขาอย่างดี

◼️ ในช่วงที่คบกัน ก็มีไปหาเขาที่โรงพยาบาลบ้าง ทำอาหารไปให้ ก็เป็นช่วงที่มีความสุขดี

◼️ แต่ว่ามันก็มีเรื่องที่ผู้ชาย เขาจะมีพฤติกรรมที่ชอบ Follow ผู้หญิงล้วนเลย เราก็ร้องขอให้เขาลดพฤติกรรมนี้ลงหน่อย

◼️ เอบอกว่าตนไม่ได้อยู่ด้วยกันถึงขั้นอยู่กินฉันสามี เป็นแบบไป ๆ มา ๆ กลับ ๆ

◼️ หลังจากที่กลับมาคบกันได้ 3-4 เดือน เราก็ท้อง ทางฝั่งผู้ชายพอจะทราบจากอาการของเราอยู่แล้ว ก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร

◼️ ตลอดช่วงที่คบกัน ทางคุณแม่ฝ่ายชายก็จะมีการออกกฎกับความสัมพันธ์ ว่าลูกชายเขาอยู่กับเราได้ถึงเวลาไหน วันไหน


🔵 หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายครอบครัวทราบว่าเอท้อง

◼️ ทางฝั่งคุณหมอก็ขอเบอร์แม่ฝ่ายหญิง เพื่อให้แมเขานั้นโทรไปคุยกับพ่อแม่เอ แต่สุดท้ายแม่เขาก็ไม่โทรมา

◼️ จากนั้นก็เลยมีการนัดคุยกันในครอบครัว แต่มีแค่คุณหมอมาคุย แม่เขาไม่ได้มาด้วย

◼️ วันนั้นก็เลยมีการคุยกันว่าจะเอายังไง ทางเอบอกว่า ไม่ต้องจัดงานแต่งก็ได้ หรือจะไปจดทะเบียนสมรสให้ถูกตามกฎหมาย ทางฝั่งผช. ก็โอเคตกลง

◼️ แต่พอผู้ชายไปคุยกับฝั่งคุณแม่เขา แม่เขาก็ไม่โอเคให้มาจดทะเบียนสมรสกับเรา ซึ่งเราก็บอกว่าถ้าไม่จดก็ต้องแต่งงานกันนะ เขาก็โอเค

◼️ ทางฝั่งผู้ชายก็โอนเงินค่าจัดงานมาให้ 100,000 บาท

◼️ แล้ววันงานแต่ง เราก็เพิ่งมีโอกาสได้เจอแม่สามีเป็นครั้งแรก ในวันงานแต่ง คนที่ไปงานฝั่งผช. คือ มีแม่ พี่หมอ และน้องหมอ แค่นั้น


🔵 หลังจากงานแต่งงานผ่านไป

◼️ เราสองคนก็อาศัยอยู่ด้วยกันที่หอพักเหมือนเดิม (ค่าหอพักเอจ่าย ค่ากินหารครึ่ง ผช. จ่ายแค่ค่าจอดรถ) แต่ทางฝั่งแม่เขา ก็ไม่ให้หนูเข้าไปเหยียบบ้านผู้ชายเหมือนเดิม

◼️ ช่วงที่อยู่ด้วยกัน เขามีพฤติกรรมเปลี่ยน คือ ตอนช่วงหนูท้อง หนูขอให้เขางดเล่นโซเชียล เพราะเขามีแต่ Follow ผู้หญิง เขาก็ทำให้ แต่พอพักหลัง เขามาขออิสรภาพ

◼️ มีช่วงที่ฝั่งเอ ต้องแอดมิท แล้วฝั่งผช. มาเฝ้าหลังเลิกงาน จากนั้นแม่ผัวก็โทรไปวีนกับแม่เอว่า "ทำไมลูกเธอมาให้ลูกฉันไปเฝ้าแล้วลูกฉันต้องตื่นมาทำงานแต่เช้า"


🔵 ช่วงตอนผู้ชายบอกเลิก

◼️ เขาได้มีการบอกเลิกเราผ่านแชท โดยให้เหตุผลว่า เขาไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต

◼️ เอเลยนั่งรถจากสุพรรณมาหาผช. ที่โรงพยาบาล จากนั้นผช. ก็โทรไปฟ้องแม่ บอกว่าเอมาตามเขาที่ รพ.

◼️ และวันนั้นหนูก็ขอร้องกับอดีตสามี ว่าขอนั่งรถไปที่บ้าน เพื่อไปคุยกับแม่ผู้ชายได้ไหม

◼️ พอไปถึงบ้าน ผู้ชายก็ชวนให้เอมาทานข้าวที่บ้าน แต่แม่ผู้ชายบอกว่า "อย่าไปทำให้มัน ให้มันไปซื้อข้าวกินเอง"

◼️ ความสัมพันธ์ของเรา จะเป็นแบบเลิกกันไม่ได้ชัดเจน เขาจะอ้างเหตุผลว่าขอเป็นอิสระ ส่วนเราก็จะขอยื้อเขาไว้ เพราะเราเองก็ไม่มีใครมาดูแล 


🔵 วันที่แม่ พี่ และน้องเขาบุกมาที่ห้องเรา

◼️ คือ เขาแชทว่า เดี๋ยวไปเจอกันที่หอ พอเขามา ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วแม่ พี่ และน้องเขา ก็บุกเข้ามาในห้อง มาเก็บของ แม่เขาก็พูดขึ้นว่า "ฉันคิดถึงลูกฉัน ฉันจะให้ลูกฉันกลับบ้าน"

◼️ จากนั้นเราสองคนก็เลิกขาดกันประมาณเดือนกันยายน 67

◼️ พอเลิกกันก็มีการกลับมาคุยกันที่ส่วนกลาง ว่าเรื่องเด็กจะเอายังไง ทางฝั่งผช. บอกว่า ไม่อยากอยู่กับเอแล้ว

◼️ แต่เรื่องเด็ก คือ

▪️ในกรณีที่ถ้าเด็กเกิดมา เขาจะรับเด็กไปเลี้ยง และขอไม่มีภาระผูกพันใด ๆ กับแม่เด็ก

▪️ในกรณีที่แม่เด็กจะรับไปเลี้ยง แม่เด็กจะไม่สามารถเรียกร้องอะไรจากเขาได้


🔵 ช่วงที่จะคลอดลูกออกมา

◼️ ทางฝั่งผู้ชายมายื่นสัญญาให้เราเซ็นตลอด แม่เขาก็ถามตลอดว่าเราเซ็นหรือยัง

◼️ โดยสัญญานี้ เป็นสัญญาที่ทำขึ้นเพื่อกันสิทธิ์ ไม่ให้แม่มาพบเจอเด็ก ซึ่งทางตัวเอยืนยันว่าตนไม่ได้เซ็น


🔵 พอหลังจากเด็กคลอด

◼️ ทางฝั่งตัวผู้ชาย ก็อยากได้ตัวเด็กไปเลยตั้งแต่น้องออกจาก รพ. ได้

◼️ แต่เอขอว่า ขอเอาลูกไปเลี้ยงที่บ้านก่อน 7 วัน แล้วเดี๋ยวเอาน้องมาคืน ก็พยายามยื้อไว้

◼️ จากนั้นทั้งสองครอบครัว ก็ได้มาคุยกันต่อว่าจะเอายังไง จนได้มีการเซ็นสัญญากัน

◼️ โดยสัญญาที่เซ็นไปนั้น เป็นลักษณะสัญญาที่กีดกันไม่ให้แม่ได้เจอลูก ส่วนสาเหตุที่เอยินยอมเซ็นเพราะตอนแรกเราตั้งใจจะให้เขาเลี้ยงดูลูกอยู่แล้ว เพราะด้วยฐานะ และตอนนั้นตนยังไม่มีงานทำ แต่เราไม่คิดว่าสัญญาเขาจะมีความเห็นแก่ตัวแบบนี้

⚠️ ทางทนายแก้วบอกว่า "สัญญานี้เป็นโมฆะ" เพราะถ้าไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส แม่จะเป็นแม่โดยชอบตามกฎหมาย


🔵 เหตุการณ์วันที่สามี และแม่เขามาพรากลูกไป

◼️ ตอนนั้นเราอยู่บ้านพี่ชาย แล้วเขาก็มากับแม่เขา แล้วก็บุกมาเอาลูกเราที่อายุเพียง 1 เดือนไป

⚠️ จากภาพเหตุการณ์ ทางทนายแก้วแจ้งว่า ทางอดีตสามี และแม่สามีจะโดนข้อหา

▪️ บุกรุก

▪️ ความรุนแรงในครอบครัว


ทางพี่หนุ่ม กรรชัยได้มีการติดต่อไปที่แม่ของหมอ และบอกแค่ว่า "ทุกอย่างมีเหตุและมีผล" แล้วก็วางสายไปเลย